รูปทรง และการออกแบบ
ต้องบอกว่าพบกันครั้งแรกไม่ค่อยเตะตา และรู้สึกหลงใหลเท่าไหร่ครับ - -" มันดูทื่อๆ ไปหน่อย และค่อนข้างธรรมดาตามปะสาสมาร์ทโฟนราคาถูกนั่นแหละ แต่ขนาดตัวเครื่องค่อนข้างกะทัดรัดจับถือง่ายดีครับ จะผู้ชาย หรือผู้หญิงก็คงจะพกพากันได้สะดวกหน่อยล่ะ ตัวเครื่องเล่นสีแบบทูโทน และคิดว่าน่าจะมีออกมาขายหลากหลายสีด้วย ตัวเครื่องที่ได้มาทดสอบเป็นสีดำ-เทา ครับ
ขนาดตัวเครื่องวัดได้โดยรอบได้ขนาดสูง 108 มิลลิเมตร กว้าง 53 มิลลิเมตร และหนา 12.5 มิลลิเมตรครับ น้ำหนักแบบรวมแบตเตอรี่แล้ว 130 กรัม เครื่องดูเล็กกว่า LG Optimus One แต่ดูแล้วน้ำหนักเท่ากันเลยนะ
ด้านหน้า
ลักษณะดูเป็นทัชโฟนแบบธรรมดาทั่วไปที่เน้นพื้นที่เป็นหน้าจอ แต่มีปุ่มควบคุมแบบแอนดรอยด์มาให้แบบ Touch-sensitive ยอดนิยม แต่บน LG Optimus ME นั้นจะมีปุ่มสำหรับโทรออก/รับสาย – วางสาย มาให้ด้วยครับ ดีไซน์อาจจะดูไม่หรูหราเท่าไหร่ แต่ทำงานได้ดีนะครับ
ด้านขวา
มีแค่ปุ่มควบคุมเสียงครับ เพิ่ม/ลด เสียงได้จากตรงนี้เลย
ด้านซ้าย
จะมีเพียงช่อง micro USB ที่มีฝาปิดมาให้อย่างดี
ด้านบน
มีช่องหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร และช่องสำหรับงัดฝาหลัง
ด้านล่าง
เรียบๆ แต่มีช่องไมโครโฟนสำหรับสนทนา และบันทึกเสียงทั่วไป
ด้านหลัง
บริเวณด้านหลังออกแบบเป็นโค้งๆ เว้าๆ มีดีเทลเล็กน้อย โดยจะมีเพียงเลนส์กล้อง 3 ล้านพิกเซล และโลโก้ LG
ฝาหลังใช้วิธีเปิดแบบงัด โดยมีช่องงัดให้ด้านบนตัวเครื่องครับ ภายในจะพบแบตเตอรี่ขนาด 1,280 mAh และช่องใส่ microSD card อยู่ด้านข้าง ใต้แบตเตอรี่ก็มีช่องใส่ซิมครับ
สรุปการออกแบบ
จริงๆ แล้วผมยอมรับว่า LG Optimus ME ตัวเครื่องดูธรรมดาเรียบๆ สไตล์แอลจี ที่มีมาอย่างช้านาน และก็ไม่ได้รู้สึกชื่นชอบเท่าไหร่เมื่อตอนเห็นครั้ง ซึ่งลองสัมผัส จับใช้ดูแล้ว ก็รู้สึกคล่องตัวดีนะครับ ขนาดมันเล็กกะทัดรัดแน่นๆ ดี งานประกอบคุณภาพอยู่แล้ว วัสดุโอเค แต่ก็ไม่ได้ถึงกับดีครับ ตามราคา การออกแบบโทรสี และส่วนโค้งเว้า และลักษณะของด้านข้างที่ทำลายเล่นสีให้ดูเหมือน LG Optimus ME เครื่องนี้รูปทรงบิดๆ เบี้ยวๆ ก็ดูเท่ห์ดีครับ
0 comments:
Post a Comment