Thursday, June 13, 2013

วิธีทำให้โหลด Bit ได้ถ้าโดนบล๊อก

ให้ไป set proxy ใน IE หรือว่า firefox นะครับ คุณจะสามารถโหลด torrent ได้แล้วแต่ยังไม่เสร็จแค่นี้นะครับ
http://news.nipa.co.th/image/manager/img500/13410_552000004989501.JPEG
แต่โปรแกรมบิท มันจะบอกว่า can't conect to trcker ,waiting xx for retry... ไม่เป็นไรครับไปเซ็ต proxy เลือก proxy type เป็น http แล้วเซ็ตค่า proxy ลงไป
เท่านี้มันก็จะ connect tracker ได้แล้วละครับ

IP 202.29.20.151 Port : 8080 <-- ใช้ไม่ได้แล้ว หาใหม่ link ด้านล่างนะคับ

ลองหา Proxy อันใหม่เว็บนี้นะคับ http://www.aliveproxy.com/proxy-list-port-8080/

ส่วนใหญ่แล้ว Proxy จะใช้ได้ไม่กี่วันนะคับ เลือก Proxy type เป็น Transparent นะคับ

วิธีการเซ็ตอย่างละเอียด :

IE > tool > InternetOptions > Connections > LANsetings > Proxy sever > ใส่เครื่องหมายถูกในช่องสี่เหลี่ยม > ใส่ IP ในช่อง Address และใส่ 8080 หรือ 80 ในช่อง Port 1

Firefox > tool > Option > General > Conectionsettings > Manual proxy Configuration > ใส่ IP ในช่อง Address และใส่ 8080 หรือ 80 ในช่อง Port /


bitcomet > preferences > proxy เลือก proxy type เป็น http1.1 > ใส่ IP ในช่อง Address และใส่ 8080 หรือ 80 ในช่อง Port

utorrent > Options > preferences >Connection> proxy sever > เลือก proxy type เป็น http > ใส่ IP ในช่อง Address และใส่ 8080 หรือ 80 ในช่อง Port

Thursday, July 7, 2011

ความรู้สึกหลังใช้งาน


ไม่ธรรมดาเหมือนกันครับสำหรับ LG Optimus ME ที่เป็นแอนดรอยด์ราคาถูกตัวแรกของทางแอลจี ระบบต่างๆ ทำออกมาได้ดี และยังเน้นออกแบบให้เครื่องพกพาง่าย กะทัดรัดมากกว่า ด้านหน้าจอผมยอมรับว่าแสดงผลได้ดีกว่าตัว Samsung Galaxy Mini นะ เพราะดูเป็นมาตรฐานมากกว่าหน่อยสีสนสดใส สเปคอื่นๆ ก็ใกล้เคียงกันค่อนข้างมาก เห็นได้ชัดว่าสมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์ปัจจุบันนั้นถูกลง แต่ได้สเปคสูงมากขึ้น เพราะเวลานี้มันเข้าใกล้กับสเปคของ LG Optimus One มากๆ ครับ


ส่วนการใช้งานพิมพ์แชทต่างๆ บอกตามตรงว่าไม่ถูกใจ เพราะจอเล็ก และคีย์บอร์ดจำลองก็เล็กพิมพ์ลำบาก พิมพ์พลาดบ่อยๆ ก็หงุดหงิดได้เหมือนกันครับ แต่ก็ลองไปแก้ปัญหากันด้วยการโหลดแอพฯ คีย์บอร์ดจำลองของเจ้าอื่นๆ มาลงดูได้ครับ แต่จุดเด่นที่มีแอพฯ แบบ TaskKiller มาให้ในตัวเครื่อง อินเตอร์เฟสดูดีปิดแอพฯ ที่ไม่ใช้ได้สะดวกและเร็วด้วยนั่นเป็นจุดที่ผมชอบมากๆ


อีกอย่างตัว LG Optimus ME นั้นยังมาพร้อม LG Launcher ที่มีรูปแบบเมนูหลักที่สามารถแยกประเภทของแอพฯ ต่างๆ ได้อย่างที่ต้องการครับ จัดระเบียบง่ายแบบนี้ยิ่งน่าใช้งาน แถมระบบต่างๆ ก็ทำงานได้ดีเยี่ยมครับ หากมองถึงตลาดแอนดรอยด์ราคาถูกปัจจุบัน LG Optimus ME ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับคนที่งบน้อย และต้องการลักษณะที่พกพาสะดวก จับถือกะทัดรัดครับ อยากให้ได้ลองสัมผัสกันดูจริงๆ

ทดสอบฮาร์ดแวร์, กล้่อง และแบตเตอรี่



กล้องดิจิตอล 3.15 ล้านพิกเซล

สำหรับกล้องของ LG Optimus ME เป็นเลนส์กล้องธรรมดาความละเอียด 3.15 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพได้ขนาด 2048 x 1536 พิกเซล ไม่มีไฟแฟลชมาให้ลูกเล่นต่างๆ ก็แทบไม่มีอะไรเลยครับ เน้นถ่ายทั่วไป สามารถปรับ ISO ได้ พร้อมด้วยภาพเอฟเฟคท์ต่างๆ คุณภาพที่ได้ก็แค่พอใช้ดูขำๆ หรืออัพขึ้นเฟสบุ๊คทั่วๆ ไปนั่นแหละ



รูปตัวอย่างจากกล้อง LG P350 Optimus ME

 

 

 

 

ส่วนกล้องถ่ายวิดีโอก็ถือเยี่ยมนะ เพราะมันดูเทียบเท่าได้กับกล้องวิดีโอของ LG Optimus One ที่ถ่ายได้ความละเอียดระดับ VGA – 640 x 480 พิกเซล ความเร็วภาพ 15 Fps แต่เน้นให้ถ่ายกลางวัน หรือแสงเยอะนะครับ คุณภาพวิดีโอจะดีกว่าหลายเท่าตัว



ทดสอบสเปคเครื่อง
มองดูสเปคแล้ว LG Optimus ME นั้นจะมีฮาร์ดแวร์ในระดับเดียวกับ Samsung Galaxy Mini ครับ โดยมี CPU ระดับ 600 MHz มาพร้อมกับ RAM 256MB ซึ่งมันสามารถเล่นเกมส์ต่างๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา โดยเฉพาะ Angry Bird ยอดฮิตครับ ก็เลยจับมาทดสอบประสิทธิภาพกันนิดหน่อยให้เห็นๆ กันไป



จัดการมาทดสอบด้วย Quadrant Standard ทำคะแนนได้ถึง 518 ครับ ถือว่าโอเคเลยนะ สำหรับแอนดรอยด์ราคาระดับนี้



ทดสอบประสิทธิภาพของกราฟฟิคต่อด้วย NeoCore ได้ 39.2 Fps ยืนยันได้อีกทีว่า Angry Bird ก็ไม่หวั่นครับ



ทดสอบระบบมัลติทัชของหน้าจอด้วย MultiTouch Tester ตัวมัลติทัชใช้ได้ 2 จุด และยังไม่ค่อยเสถียรเท่าไหร่ แต่โดยรวมทำงานได้ดีอยู่ครับ วนไปวนมาไม่ค่อยรวน แต่ใกล้กันมากๆ ก็หลุดเหมือนกันครับ



ทดสอบประสิทธิภาพของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่แบบ Li-Ion 1,280 mAh ของ LG Optimus ME ถือว่ามีความจุในระดับที่โอเคเลยครับ มันทำงานได้ดีเช่นเดียวกับตัว LG Optimus One ที่เหนือกว่า โดยมันใช้งานได้ราวๆ 2 วัน แบบใช้งานทั่วไป แต่หากใช้ดาต้ามากๆ ยังไงก็แค่วันต่อวันเท่านั้นครับ ยิ่งมีการเล่นอินเตอร์เน็ตบราวเซอร์ หรือเปิดแอพฯ เยอะๆ ก็ยิ่งกินไฟ โดยเฉพาะการใช้งาน WiFi รวมถึงออนไลน์โปรแกรมแชทต่างๆ ทิ้งไว้ที่ต้องมีการเชื่อมต่อข้อมูลตลอดเวลาด้วยครับ ส่วนสเปคที่มานั้นมันสามารถเปิดเครื่องรอรับสายได้นาน 450 ชั่วโมง และสนทนาต่อเนื่องได้ถึง 5 ชั่วโมงครับ

ฟีเจอร์เด่นๆ ของ LG Optimus ME ตอน 2

 

 

เครื่องเล่นเพลง, วิดีโอ และวิทยุ FM

เครื่องเล่นเพลง MP3 ของ LG Optimus ME ก็เป็นหน้าตาแบบแอนดรอยด์มาตรฐานธรรมดา สามารถเล่นสุ่ม, วน และจัดเรียงลำดับการเล่นเองได้ หรือจะใช้สุ่มกระจายรายการเพลง (Party Shuffle) ก็ได้ โดยรองรับไฟล์เพลง MP3, WAV และ eAAC+ ครับ สามารถแสดงอัลบั้มอาร์ทได้ด้วย ตัวเครื่องเล่นยังรองรับภาษาไทยครบถ้วนครับ


 

เครื่องเล่นวิดีโอของ LG Optimus ME จะมีไอค่อนเรียกเป็นของตัวเอง กดเข้าไปก็จะเป็นลิสต์รายการวิดีโอที่มีบนเครื่อง โดยแสดงเป็น Thumbnail เล็กๆ ด้วยครับ พร้อมบอกระยะเวลาความยาวของวิดีโอ รองรับแค่ขนาดวิดีโอมาตรฐาน และไม่เกิน 640 x 480 พิกเซลจะดีกว่าครับ


 

วิทยุ FM ของ LG Optimus ME เป็นวิทยุแบบ 1 จุดทศนิยม และต้องเสียบหูฟังรับสัญญาณ แต่มีระบบช่วยค้นหาคลื่นอัตโนมัติ โดยก็บันทึกสถานีที่ชอบไว้ฟังได้



ลำโพงเสียง, ไมโครโฟน และช่องเสียบหูฟัง
ใครที่คาดหวังกับลำโพงเสียงคงต้องผิดหวังกันหน่อย เพราะ LG Optimus ME นั้นไม่ได้มีช่องลำโพงเสียงแยกมาให้ครับ ใช้ลำโพงเดียวกันกับลำโพงสนทนา ดังนั้นคุณภาพเสียงจึงแบบทั่วๆ ไป ไม่ดังมากเท่าไหร่ครับแค่พอใช้ได้



ไมโครโฟนก็จะอยู่ด้านล่างในจุดที่โค้งพอดี รับเสียงได้ดีครับ ไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไร โดยยังมีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตรให้ใช้งานด้วยล่ะ คุณภาพของหูฟังที่มากับเครื่องก็ธรรมดาทั่วไป เสียงที่ได้ก็ยังนุ่มและชัดเจนดีกว่าฟังจากลำโพงอยู่แล้วครับ


 

อินเตอร์เน็ตบราวเซอร์
บราวเซอร์ เป็นอีกจุดที่เป็นรองตัว LG Optimus One รุ่นพี่แบบกินขาดเพราะขนาดของหน้าจอ รวมถึงความละเอียดของหน้าจอที่ด้อยกว่า โดยยังคงเป็นบราวเซอร์ Android HTML Webkit หน้าตาอินเตอร์เฟสเรียบๆ แต่ทำงานได้รวดเร็วเหมือนเคย การแสดงผลก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ครับ แต่รองรับภาษาไทยต่างๆ ครบนะ ส่วนแฟลชไม่ต้องพูดถึง ไม่สามารถเล่นได้เพราะข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์


 

บราวเซอร์ก็ยังสามารถซูมด้วยระบบมัลติทัช หรือดับเบิ้ลแท็บได้ รองรับการเปิดแบบมัลติวินโดว์โดยที่ไม่กระตุก โดยรวมแล้วทำงานได้ดีรวดเร็วใช้ได้เลย


 

 

Social Networking System
เกี่ยวกับระบบโซเชียลเน็ตเวิร์ค ต้องบอกว่าแอนดรอยด์มันสามารถลงแอพฯ ต่างๆ เพิ่มเติมได้อย่างเต็มที่อยู่แล้ว ผมจึงไม่ค่อยใส่ใจกับแอพพลิเคชั่นติดเครื่องเท่าไหร่นัก เพราะบางทีเราก็ต้องมานั่งอัพเดทมันอีกอยู่ดีนั่นแหละ แต่ถึงอย่างไรบน LG Optimus ME เองก็ยังมีแอพฯ ด้านโซเชียลเน็ตเวิร์คที่น่าสนใจอย่าง Layar ที่มักจะติดมาให้อยู่แล้ว


 

Facebook ยอดฮิตก็สามารถลงเวอร์ชั่นล่าสุดได้จาก Android Market เวลานี้สามารถแชทได้แล้วด้วย ฟีเจอร์เกี่ยวกับกลุ่มก็มีเพิ่มเข้ามาแล้วอีกเช่นกันนะ


 

 


ส่วน Twitter เวอร์ชั่นใหม่ก็หน้าตาสวยงามขึ้น ใช้งานง่าย และรวดเร็วเหมือนเคยครับ


 

ระบบนำทาง GPS รองรับ A-GPS
ตัวระบบนำทางของ LG Optimus ME นั้นยังจับสัญญาณ GPS ได้ไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่ครับ แต่ในพื้นที่โล่งเองก็ทำงานได้ดีพอใช้ จริงๆ หาไม่ซีเรียสอะไรมันก็ทำงานได้เช่นกัน เพราะบางทีผมก็ไม่คิดว่าเราจะใช้มันอย่างจริงจัง ส่วนใหญ่จะเน้น Social Network ที่มี Location เข้ามาเกี่ยวข้องมากกว่า อย่างเช่น Foursquare นั่นเอง โดย GPS ที่รองรับ A-GPS ยังใช้งานร่วมกับโปรแกรมแผนที่อย่าง Google Maps, Latitude และ Place ครับ

Place ก็เป็นอีกฟีเจอร์ที่หลังๆ มานั้นก็มีแทบทุกเครื่องบนแอนดรอยด์อยู่แล้ว และความสามารถมันก็น่าสนใจมากๆ มันใช้งานในลักษณะเดียวกับบน NDrive ของ LG Optimus One เลยครับ เพียงแต่ไม่มีระบบนำทาง 3 มิติ และเสียงบรรยายเท่านั้น อีกอย่างใช้งานบน Google Maps นั้นก็จำเป็นต้องเชื่อมต่อินเตอร์เน็ตด้วยนะครับ


 

 

 

รองรับ Google Mobile Services
เป็นธรรมดาที่แอนดรอยด์โฟนจะมีแอพฯ ของกูเกิ้ลให้เพียบพร้อม และบนระบบ Android 2.2 Froyo นั้นจะรองรับตัว Google Mobile Services แบบเต็มรูปแบบครับ ทั้ง Google Mail, Maps, GTalk, Google Voice Action และ YouTube ครับ มันสามารถอัพโหลดวิดีโอขึ้น YouTube ได้ด้วยนะครับ


 

LG Optimus ME มาพร้อม Task Manager
ผมชอบ LG Optimus ME เป็นพิเศษก็เพราะว่ามีแอพฯ สำหรับปิดโปรแกรมต่างๆ ที่เปิดทิ้งไว้ได้เลยโดยที่ไม่ต้องไปลงแอพฯ พวก TaskKiller เพิ่มเติมเลย แถมยังใช้งานง่าย รวดเร็ว และหน้าตาก็ดูดีอีกต่างหากครับ นอกจากนี้ยังสามารถลบพวกแอพฯ ที่เคยลงไปก่อนหน้านี้ได้จากตรงนี้ด้วย เพราะมีแท็บที่เป็น Downloaded Applications นั่นเองครับ